ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เทิดไทมหาราชัน
ศูนย์การเรียนรู้ภายในหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ ๓๓ สำนักงานพัฒนาภาค ๓ หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ต้นเปล้า



ต้นเปล้า ชื่อสามัญ Thai croton
เปล้าน้อย ชื่อวิทยาศาสตร์ Croton fluviatilis Esser, Croton stellatopilosus H.Ohba, Croton sublyratus Kurz (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Oxydectes sublyrata (Kurz) Kuntze) จัดอยู่ในวงศ์ยางพารา (EUPHORBIACEAE)

ลักษณะของต้นเปล้า

ต้นเปล้า จัดเป็นไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้น เป็นไม้ผลัดใบ มีความสูงของต้นประมาณ 1-4 เมตร แตกกิ่งก้านตั้งแต่โคนต้น ที่เปลือกลำต้นมีสีน้ำตาลปนเทา ผิวค่อนข้างเรียบ และจะนิยมขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อหรือรากไหลเนื่องจากจะได้พันธุ์แท้ แต่ถ้าเพาะจากเมล็ดอาจจะกลายพันธุ์ได้ สามารถพบได้ตามป่าเบญจพรรณ โดยจะเจริญเติบโตได้ดีในเขตร้อน ในพื้นดินร่วนปนทรายที่ระบายน้ำได้ดี เช่น ในจังหวัดปราจีนบุรี นครพนม กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น
ใบเปล้าน้อย ใบเป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับกัน ลักษณะของใบเป็นรูปใบหอกรียาว มีความยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร และกว้างประมาณ 4-6 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบเรียว แผ่นใบเรียบเป็นมันสีเขียวเข้ม เมื่อใบแก่จะเปลี่ยนเป็นสีส้ม ส่วนขอบใบเป็นจักคล้ายซี่ฟัน
ดอกเปล้าน้อย ออกดอกเป็นช่อ ช่อดอกมีขนาดเล็ก โดยจะออกบริเวณซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ดอกย่อยมีขนาดเล็ก เป็นแบบแยกเพศแต่อยู่ในช่อเดียวกัน กลีบดอกเป็นเส้นเมื่อบานแล้วจะโค้งไปด้านหลัง โดยกลีบดอกมีประมาณ 10-15 กลีบ มีสีขาวนวล
ผลเปล้าน้อย ลักษณะของผลเป็นรูปทรงค่อนข้างกลม เปลือกผลเมื่อแห้งมีสีน้ำตาลและแตกได้ง่าย โดยผลจะแบ่งออกเป็นพู 3 พู มีรอยกลีบเลี้ยงติดอยู่ที่ก้นผล ในแต่ละพูจะมีเมล็ดอยู่ 1 เมล็ด เมล็ดมีสีน้ำตาลผิวเรียบ มีลายเส้นตามแนวยาวสีขาวหนึ่งเส้น มีขนาดกว้างประมาณ 2-3 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 3-4 มิลลิเมตร โดยผลจะพัฒนาจนแก่จัดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์จนถึงเดือนมีนาคม

สรรพคุณของต้นเปล้า

  1. ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย (ใบ, เปลือก)
  2. ช่วยแก้เลือดร้อน (เปลือกและกระพี้)
  3. ช่วยรักษาอาการไอ (ใบ, แก่น, ดอก, เปลือก)
  4. ช่วยแก้อาการไอเป็นเลือด (ใบ, ราก)
  5. ช่วยขับเสมหะ (ใบ, แก่น, ดอก, เปลือก)
  6. ช่วยกระจายลม (แก่น)
  7. รากมีรสร้อน ช่วยแก้ลมขึ้นเบื้องบนให้หายเป็นปกติ (ราก)
  8. เปลือกต้นมีรสร้อน ช่วยในการย่อยอาหาร (เปลือกต้น, กระพี้)
  9. ช่วยรักษาโรคท้องเสีย (เปลือกและใบ)
  10. รากใช้ต้มกับน้ำดื่มขณะอุ่น ช่วยแก้โรคกระเพาะอาหาร (ราก, ใบ)
  11. ช่วยขับผายลม (ราก)
  12. เปล้าน้อยใช้เป็นยาขับพยาธิ ฆ่าพยาธิ (ดอก)[1],[2],[3] ช่วยแก้พยาธิต่าง ๆ (ใบ, ราก)
  13. ช่วยขับไส้เดือน (แก่น)
  14. ช่วยแก้ริดสีดวงทวาร (ใบ, ราก)
  15. ช่วยบำรุงโลหิตประจำเดือนของสตรี (ใบ, เปลือกและใบ)
  16. ลูกใช้ดองสุรากินเป็นยาขับโลหิตระดูในเรือนไฟ (เข้าใจว่าเป็นผล)
  17. ช่วยขับโลหิต (แก่น)
  18. ช่วยรักษาแผล สมานแผล (ใบ, แก่น, ดอก, เปลือก)[1]
  19. ช่วยแก้โรคน้ำเหลืองเสีย (ผล)
  20. ผลมีรสร้อน ใช้ต้มกับน้ำดื่มเป็นยาขับหนองให้กระจาย (ผล)
  21. ช่วยขับเลือดหนองให้ตก (แก่น)
  22. ช่วยแก้อาการคันตามตัว (ใบ, ราก)
  23. ช่วยรักษาโรคผิวหนัง กลาก เกลื้อน (ใบ, ราก, เปลือกและใบ)
  24. ช่วยรักษามะเร็งเพลิง (ใบ, ราก)
  25. แก่นมีรสร้อน ช่วยแก้อาการช้ำใน (แก่น)
 
                                      
ศูนย์การเรียนรู้หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ ๓๓ สำนักงานพัฒนาภาค ๓ หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา
บ้านหัวฝาย หมู่ ๒ ตำบลพระธาตุผาแดง อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก